Fixed Mindset (กรอบความคิดแบบยึดติด) และ Growth Mindset (กรอบความคิดแบบเติบโต)

วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 2 กรอบความคิดหลักที่นักจิตวิทยา Carol Dweck ค้นพบ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง Fixed Mindset (กรอบความคิดแบบยึดติด) และ Growth Mindset (กรอบความคิดแบบเติบโต)
ส่องความแตกต่าง: คุณเป็นแบบไหน?
ลองดูว่าความคิดของคุณตรงกับฝั่งไหนมากที่สุด
Fixed Mindset (ยึดติด)
- เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ "ติดตัวมา" เปลี่ยนไม่ได้
- หลีกเลี่ยงความท้าทาย กลัวทำไม่ได้แล้วจะดูไม่เก่ง
- เห็นว่าความพยายามไร้ประโยชน์ ถ้าเก่งจริงไม่ต้องพยายามมาก
- เมื่อเจอความล้มเหลว จะท้อแท้ ล้มเลิก มองเป็นหลักฐานว่า "ฉันไม่ดีพอ"
- เมื่อได้รับคำวิจารณ์หรือคำแนะนำปฏิเสธ มองเป็นการโจมตีส่วนตัว
- เมื่อผู้อื่นประสบความสำเร็จ รู้สึกถูกคุกคามและเกิดความอิจฉา
Growth Mindset (เติบโต)
- เชื่อว่า "พัฒนาได้" ด้วยความพยายามและการเรียนรู้
- เมื่อเจอความท้าทาย ยอมรับ มองเป็นโอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเอง
- เห็นว่าความพยายามจำเป็น คือหนทางสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญ
- เมื่อเจอความล้มเหลวจะเรียนรู้ และไม่หยุดพัฒนา มองเป็นบทเรียนและข้อมูลเพื่อปรับปรุง
- ต่อคำวิจารณ์/คำแนะนำ
- เมื่อได้รับคำวิจารณ์หรือคำแนะนำ เปิดใจรับฟัง มองเป็นเครื่องมือช่วยให้เก่งขึ้น
- เมื่อผู้อื่นประสบความสำเร็จได้รับแรงบันดาลใจ และเรียนรู้จากพวกเขา
ก้าวข้ามขีดจำกัด สู่ "Growth Mindset"
ทุกคนมีทั้งสองกรอบความคิดนี้อยู่บ้าง แต่เราเลือกที่จะให้น้ำหนักกับฝั่งไหนก็ได้! การปรับ Mindset ไม่ใช่แค่ "คิดบวก" แต่คือการเปลี่ยนมุมมองต่อความพยายามและความผิดพลาด
3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเริ่มต้น (How-to)
1. เปลี่ยนคำพูดในหัว: เมื่อเจออุปสรรค อย่าพูดว่า "ฉันทำไม่ได้" ให้ลองเปลี่ยนเป็น "ฉันยังทำไม่ได้... แต่จะลองหาวิธีใหม่"
2. ชื่นชม "ความพยายาม": ให้รางวัลตัวเองที่พยายามอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ที่ผลลัพธ์สุดท้าย
3. กล้าเผชิญหน้ากับ "บทเรียน": เมื่อพลาด จงตั้งคำถามว่า "ฉันได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดนี้บ้าง?"
Growth Mindset คือการเดินทางของการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด แค่เริ่มเปลี่ยนความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถปลดล็อกศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของคุณได้แล้ว!
มาแชร์กัน!
ตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับความท้าทายอะไรอยู่ และจะใช้ #GrowthMindset ก้าวผ่านมันไปได้อย่างไร? คอมเมนต์บอกเราหน่อย!

