Resilience 101: สร้างภูมิต้านทานความเครียดในการทำงาน
อัพเดทล่าสุด: 19 ต.ค. 2025
258 ผู้เข้าชม

Resilience 101: สร้างภูมิต้านทานความเครียดในการทำงาน
การทำงานในยุคนี้มาพร้อมกับความท้าทายที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ความสามารถในการ "ล้มแล้วลุก" หรือ Resilience จึงเป็นทักษะสำคัญที่ไม่ใช่แค่ "รอด" แต่ทำให้คุณ "เติบโต" ได้ภายใต้ความกดดัน
มาดูกันว่า เราจะสร้างเกราะป้องกันความเครียดในการทำงานได้อย่างไรบ้าง
1. วิธีสร้างเกราะป้องกันทางความคิด (Mindset Shield)
เปลี่ยนมุมมองปัญหา
เมื่อเจอปัญหา ให้เปลี่ยนคำถามจาก "ทำไมต้องเป็นฉัน?" เป็น "ฉันจะเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง?" (Focus on Learning)
หยุดโทษตัวเอง
เข้าใจว่า ความผิดพลาดไม่ใช่ตัวคุณ แต่เป็นแค่ผลลัพธ์ของการกระทำหนึ่งๆ แยกตัวตนออกจากงานที่ทำ
กำหนดขอบเขต
เมื่อเลิกงานแล้ว "ปิด" การแจ้งเตือนที่เกี่ยวข้องกับงานโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สมองได้พักฟื้นอย่างเต็มที่
ฝึกความยืดหยุ่นทางจิตใจ
เข้าใจว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ (Perfectionism is a myth) ยอมรับว่าแผนสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
เขียนบันทึกความสำเร็จ
ทุกวัน ให้เขียนสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่ทำได้สำเร็จอย่างน้อย 3 ข้อ (แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย) เพื่อปรับสมดุลความคิด
2. วิธีสร้างพลังงานทางร่างกาย (Energy Recharge)
"Mindful" Break
ใช้เวลาพัก 5 นาทีอย่างมีสติ (ไม่ไถฟีดโซเชียล) อาจเป็นการยืดเส้น, มองออกไปนอกหน้าต่าง หรือการหายใจเข้า-ออกลึกๆ
Hydrate & Move
การขาดน้ำทำให้ความเครียดสูงขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ และพยายามลุกจากโต๊ะทำงานทุกๆ 1 ชั่วโมง
นอนให้เป็น Routine
เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายและสมองสามารถเข้าสู่ "โหมดซ่อมแซม" ได้อย่างเต็มที่
กำหนด "No-Meeting Day"
หากทำได้ ให้กำหนดวันในสัปดาห์ที่ไม่รับนัดประชุม เพื่อให้มีเวลาทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง
การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
กิจกรรมทางกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดฮอร์โมนความเครียด (Cortisol)
3. วิธีสร้างเครือข่ายสนับสนุน (Support Network)
ขอความช่วยเหลือ
เมื่อรู้สึกว่ารับมือไม่ไหว ให้ขอความช่วยเหลืออย่างชัดเจน (Don't suffer in silence)
สร้างกลุ่ม "บ่น" อย่างสร้างสรรค์
หาเพื่อนร่วมงานที่คุณสามารถแชร์ปัญหา (ที่เน้นการหาทางออก) ได้อย่างไว้ใจ
ตัดความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
จำกัดการปฏิสัมพันธ์กับคนที่ใช้พลังงานหรือความคิดเชิงลบกับคุณ
สรุป Resilience ไม่ใช่การไม่เครียด แต่คือการมีเครื่องมือที่พร้อมจะรับมือและฟื้นตัวจากความเครียดเหล่านั้นได้เร็วขึ้น เริ่มต้นจาก การเปลี่ยนแปลงคำพูดในใจคุณ ตั้งแต่วันนี้!
การทำงานในยุคนี้มาพร้อมกับความท้าทายที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ความสามารถในการ "ล้มแล้วลุก" หรือ Resilience จึงเป็นทักษะสำคัญที่ไม่ใช่แค่ "รอด" แต่ทำให้คุณ "เติบโต" ได้ภายใต้ความกดดัน
มาดูกันว่า เราจะสร้างเกราะป้องกันความเครียดในการทำงานได้อย่างไรบ้าง
1. วิธีสร้างเกราะป้องกันทางความคิด (Mindset Shield)
เปลี่ยนมุมมองปัญหา
เมื่อเจอปัญหา ให้เปลี่ยนคำถามจาก "ทำไมต้องเป็นฉัน?" เป็น "ฉันจะเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง?" (Focus on Learning)
หยุดโทษตัวเอง
เข้าใจว่า ความผิดพลาดไม่ใช่ตัวคุณ แต่เป็นแค่ผลลัพธ์ของการกระทำหนึ่งๆ แยกตัวตนออกจากงานที่ทำ
กำหนดขอบเขต
เมื่อเลิกงานแล้ว "ปิด" การแจ้งเตือนที่เกี่ยวข้องกับงานโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สมองได้พักฟื้นอย่างเต็มที่
ฝึกความยืดหยุ่นทางจิตใจ
เข้าใจว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ (Perfectionism is a myth) ยอมรับว่าแผนสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
เขียนบันทึกความสำเร็จ
ทุกวัน ให้เขียนสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่ทำได้สำเร็จอย่างน้อย 3 ข้อ (แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย) เพื่อปรับสมดุลความคิด
2. วิธีสร้างพลังงานทางร่างกาย (Energy Recharge)
"Mindful" Break
ใช้เวลาพัก 5 นาทีอย่างมีสติ (ไม่ไถฟีดโซเชียล) อาจเป็นการยืดเส้น, มองออกไปนอกหน้าต่าง หรือการหายใจเข้า-ออกลึกๆ
Hydrate & Move
การขาดน้ำทำให้ความเครียดสูงขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ และพยายามลุกจากโต๊ะทำงานทุกๆ 1 ชั่วโมง
นอนให้เป็น Routine
เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายและสมองสามารถเข้าสู่ "โหมดซ่อมแซม" ได้อย่างเต็มที่
กำหนด "No-Meeting Day"
หากทำได้ ให้กำหนดวันในสัปดาห์ที่ไม่รับนัดประชุม เพื่อให้มีเวลาทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง
การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
กิจกรรมทางกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดฮอร์โมนความเครียด (Cortisol)
3. วิธีสร้างเครือข่ายสนับสนุน (Support Network)
ขอความช่วยเหลือ
เมื่อรู้สึกว่ารับมือไม่ไหว ให้ขอความช่วยเหลืออย่างชัดเจน (Don't suffer in silence)
สร้างกลุ่ม "บ่น" อย่างสร้างสรรค์
หาเพื่อนร่วมงานที่คุณสามารถแชร์ปัญหา (ที่เน้นการหาทางออก) ได้อย่างไว้ใจ
ตัดความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
จำกัดการปฏิสัมพันธ์กับคนที่ใช้พลังงานหรือความคิดเชิงลบกับคุณ
สรุป Resilience ไม่ใช่การไม่เครียด แต่คือการมีเครื่องมือที่พร้อมจะรับมือและฟื้นตัวจากความเครียดเหล่านั้นได้เร็วขึ้น เริ่มต้นจาก การเปลี่ยนแปลงคำพูดในใจคุณ ตั้งแต่วันนี้!
บทความที่เกี่ยวข้อง
คุณเชื่อใน "พรสวรรค์" หรือ "ความพยายาม" มากกว่ากัน? รู้ไหมว่า... กรอบความคิด (Mindset) ที่คุณเลือกใช้ กำลังกำหนดความสำเร็จและศักยภาพที่คุณจะไปถึง!วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 2 กรอบความคิดหลักที่นักจิตวิทยา Carol Dweck ค้นพบ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง Fixed Mindset (กรอบความคิดแบบยึดติด) และ Growth Mindset (กรอบความคิดแบบเติบโต)
19 ต.ค. 2025
ในโลกของการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากผลกระทบของเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความต้องการด้าน ความยั่งยืน (Sustainability) ทักษะที่จำเป็นจึงเน้นไปที่การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และความสามารถด้านดิจิทัลเป็นหลัก นี่คือ 10 ทักษะในการทำงานที่ต้องมีในปี 2026 โดยอ้างอิงจากแนวโน้มและรายงานของสถาบันชั้นนำ
4 ต.ค. 2025

